หลักคิดในการทำเรื่องต่างๆของผมข้อหนึ่งนั้นก็คือ
ง่ายคือถูกต้อง คำๆนี้ผมได้ยินจาก อ.สมพร เจ้าของจานดาวเทียมยี่ห้อ PSI โดยผ่านทาง
youtube ตอนนั้นเป็นตอนที่อาจารสมพรมาออกรายการฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ
ทางช่อง workpoint Tv โดยมีหนุ่มเมืองจันทร์เป็นพิธีกร โดยอาจารย์ได้ขยายความเอาไว้ว่าหากเราต้องการคิดที่จะทำอะไรก็แล้วแต่เราควรคิดขั้นตอนหรือวิธีการให้มันเข้าใจได้ง่ายๆ
ซึ่งมันจะสามารถเข้าถึงคนส่วนมากได้ง่ายกว่าการที่เราคิดหรือว่าเราทำอะไรยากๆ
ซึ่งหลังจากที่ผมได้ฟังแล้วผมก็เกิดความรู้สึกในการเห็นด้วยมากๆ
และก็ยึดเอาหลักนั้นมาเป็นหลักในการทำงานในทุกครั้งทีมีโอกาส PP Inter Solution
โดยจะเห็นผลดีมากที่สุดในงานที่มีกำหนดเวลาควบคุมเอาไว้
เพราะโดยปรกติแล้วเวลาที่เราได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบหรือว่าทำงานอะไรก็แล้วแต่เราก็มักที่จะคาดหวังกับมันเอาไว้สูงมากๆจึงส่งผลให้เราวางแผนหรือคิดวิธีการที่ยากๆในการลงมือทำ
แต่พอถึงขั้นตอนในการลงมือปฏิบัติจริงๆแล้วละก็ทุกๆเรื่องมันไม่ได้ง่ายๆหรือว่าเป็นไปตามที่เราคิดวางแผนไว้ทั้งหมดทุกเรื่อง
ซึ่งในระยะยาวนั้นก็ทำให้เราไม่สามารถทำให้งานนั้นสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีนั้นเอง แต่หากว่าเราวางแผนแบบเรียบง่าย
ซึ่งในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าทำแบบขอไปทีหรือว่าทำให้เสร็จๆไป
แต่หมายถึงการทำตามขั้นตอนหรือว่าวิธีการที่เราทำได้สำเร็จมาแล้วในอดีตหรือว่าคนอื่นสามารถทำสำเร็จมาแล้วในอดีตนั้นเอง
ซึ่งเมื่อเจอปัญหาเราก็จะสามารถแก้ปัญหานั้นได้อย่างรวดเร็วเพราะว่าคนอื่นๆที่ใช้วิธีการกับเรานั้นเขาก็เจอปัญหาเดียวกันกับเรามาแล้วเขาจึงได้บอกวิธีการในการแก้ปัญหาให้กับเราได้
เมื่อเราแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้เร็วก็ทำให้งานของเรานั้นสามารถที่จะสำเร็จลุล่วงได้ทันกำหนดเวลาที่ได้มีการกำหนดเอาไว้ ซึ่งเมื่อเราสามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จได้ทันในระยะเวลาที่กำหนดแล้วละก็
เราก็จะได้รับความไว้วางใจให้รับผิดชอบงานอื่นๆอีกต่อๆไป
แต่ถ้าเราไม่สามารถที่จะทำงานให้เสร็จสิ้นได้ตามกำหนดที่ได้มีการระบุเอาไว้
ต่อไปผู้บังคับบัญชาของเราเขาก็อาจจะไม่กล้าที่จะมอบหมายงานอื่นๆที่มีความสำคัญให้กับเราได้ทำอีก PP Inter Solution
ซึ่งหลักคิดที่ว่าง่ายคือถูกต้องนี้มันก็มาสอดตล้องกับการทำธุรกิจประเภทสตาทอัพในปัจจุบันที่เรียกกันว่าวิธีการแบบ
ลีนสตาทอัพ นั้นก็คือเวลาที่เราจะทำผลิตภันณ์อะไรใหม่ออกมาก็แล้วแต่เรายังไม่จำเป็นจะต้องทำให้ผลิตภัณต์นั้นดีเลิศร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะว่ามันจะต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการนานมาก
และเสี่ยงกับการที่เมื่อเราปล่อยสินค้าชิ้นนั้นๆออกมาแล้วจะไม่มีคนใช้สินค้าของเรา
แต่ถ้าใช้หลักลีน แล้วละก็เราเพียงทำผลิตภัณต์ที่มีคุณสมบัติเพียงอย่างเดียวก่อนแล้วเราก็ปล่อยออกมาให้กับลูกค้าได้ใช้เพื่อเป็นการทดสอบว่าจริงๆแล้วมีคนที่สนใจอยากจะใช้สินค้าของเราจริงๆหรือเปล่า
หรือว่าสิ่งที่เราคิดและลงมือทำอยู่นี้เป็นแค่ความคิดเห็นของเราเพียงคนเดียว พอเราปล่อยสินค้าออกมาเลยไม่มีคนใช้และก็ขาดทุนในที่สุด
#s7content
